Office XP:
คลิก Start->Run พิมพ์ Regedit เขัาไปที่คีย์
[HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Office\10.0\Registration]
คลิกเครื่องหมาย + หน้า Registration คลิกที่ตัวเลข {xxxxxxxx-xxxx-xxxx-xxxx-xxxxxxxxxxxx} แถวแรก
ด้านขวา มองหาคีย์ DigitalProductID และ ProductID แล้วทำการลบทิ้ง
จากนั้นเปิดโปรแกรม word, excel อื่นๆ แล้วจะมีหน้าต่างโผล่ขึ้นมาให้ใส่ product key ทำการใส่ product key อันใหม่ เสร็จแล้วคลิก ok
Office 2003:
คลิก Start->Run พิมพ์ Regedit เขัาไปที่คีย์
[HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Office\11.0\Registration]
คลิกเครื่องหมาย + หน้า Registration คลิกที่ตัวเลข {xxxxxxxx-xxxx-xxxx-xxxx-xxxxxxxxxxxx} แถวแรก
ด้านขวา มองหาคีย์ DigitalProductID และ ProductID แล้วทำการลบทิ้ง
จากนั้นเปิดโปรแกรม word, excel อื่นๆ แล้วจะมีหน้าต่างโผล่ขึ้นมาให้ใส่ product key ทำการใส่ product key อันใหม่ เสร็จแล้วคลิก ok
Office 2007:
คลิก Start->Run พิมพ์ Regedit เขัาไปที่คีย์
[HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Office\12.0\Registration]
คลิกเครื่องหมาย + หน้า Registration คลิกที่ตัวเลข {xxxxxxxx-xxxx-xxxx-xxxx-xxxxxxxxxxxx} แถวแรก
ด้านขวา มองหาคีย์ DigitalProductID และ ProductID แล้วทำการลบทิ้ง
จากนั้นเปิดโปรแกรม word, excel อื่นๆ แล้วจะมีหน้าต่างโผล่ขึ้นมาให้ใส่ product key ทำการใส่ product key อันใหม่ เสร็จแล้วคลิก ok
ปล ... ก่อนกระทำการใดๆ ควร backup คีย์เก็บไว้ก่อน เผื่อ product key อันใหม่ใช้ไม่ได้ ยังสามารถกลับไปใช้ product key อันเดิมได้โดยไม่มีปัญหา
คลิก Start->Run พิมพ์ Regedit เขัาไปที่คีย์
Office XP:
[HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Office\10.0\Registration]
Office 2003:
[HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Office\11.0\Registration]
Office 2007:
[HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Office\12.0\Registration]
Office 2003:
คลิก Start->Run พิมพ์ Regedit เขัาไปที่คีย์
[HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Office\11.0\Registration]
คลิกเครื่องหมาย + หน้า Registration คลิกที่ตัวเลข {xxxxxxxx-xxxx-xxxx-xxxx-xxxxxxxxxxxx} แถวแรก
ด้านขวา มองหาคีย์ DigitalProductID และ ProductID แล้วทำการลบทิ้ง
จากนั้นเปิดโปรแกรม word, excel อื่นๆ แล้วจะมีหน้าต่างโผล่ขึ้นมาให้ใส่ product key ทำการใส่ product key อันใหม่ เสร็จแล้วคลิก ok
Office 2007:
คลิก Start->Run พิมพ์ Regedit เขัาไปที่คีย์
[HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Office\12.0\Registration]
คลิกเครื่องหมาย + หน้า Registration คลิกที่ตัวเลข {xxxxxxxx-xxxx-xxxx-xxxx-xxxxxxxxxxxx} แถวแรก
ด้านขวา มองหาคีย์ DigitalProductID และ ProductID แล้วทำการลบทิ้ง
จากนั้นเปิดโปรแกรม word, excel อื่นๆ แล้วจะมีหน้าต่างโผล่ขึ้นมาให้ใส่ product key ทำการใส่ product key อันใหม่ เสร็จแล้วคลิก ok
ปล ... ก่อนกระทำการใดๆ ควร backup คีย์เก็บไว้ก่อน เผื่อ product key อันใหม่ใช้ไม่ได้ ยังสามารถกลับไปใช้ product key อันเดิมได้โดยไม่มีปัญหา
คลิก Start->Run พิมพ์ Regedit เขัาไปที่คีย์
Office XP:
[HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Office\10.0\Registration]
Office 2003:
[HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Office\11.0\Registration]
Office 2007:
[HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Office\12.0\Registration]
แล้วคลิกขวาที่ Registration เลือก Export ตั้งชื่อ แล้วคลิก Save
การคืนค่า : product key อันเดิม ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ที่ backup เก็บไว้ แล้วคลิก ok
การคืนค่า : product key อันเดิม ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ที่ backup เก็บไว้ แล้วคลิก ok
Product key microsoft office 2010
าวิธีการเปลี่ยน Product key microsoft office 2010 ครับ ง่้่ายๆครับ เพียงไม่กี่คลิกก็เปลี่ยนได้แล้วครับ ไม่ต้องลบแล้วลงใหม่เลยครับ เราจะได้ใช้ outlook2010 ,microsoft word 2010,microsoft excel 2010 กันได้อย่างสบายๆ โดยไม่มี Pop-up ถามเรื่อง License สำหรับคนที่มีปัญหากับ Microsoft office 2010 ในเวลาเปิดโปรแกรมขึ้นมา โดยส่วนมากจะมีปัญหากับคนที่ชอบหา License ตาม Internet
การเปลี่ยนนั่น เราจะเปิดตัวไหนก็ได้ Outlook2010 , word 2010, excel 2010 ขึ้นมาก็ได้ครับ แล้วแต่ ในรูปผมเปิด Outlook 2010 อยู่พอดีเลย
วิธีการเปลี่ยน Product key microsoft office 2010 ทำได้ดังนี้
1. ตอนแรกให้เรามาดูที่ File > help กันก่อนนะครับ ว่า Microsoft office ของเรา Active ยัง ในรูป Active แล้วนะครับ แต่ถ้าไม่ได้ Active มันจะขึ้น non - active
และทำการดู version ด้วยว่าเป็นอะไร ในรูปเป็น Microsoft office Professional Plus 2010
วิธีการเปลี่ยน Product key microsoft office 2010 ทำได้ดังนี้
1. ตอนแรกให้เรามาดูที่ File > help กันก่อนนะครับ ว่า Microsoft office ของเรา Active ยัง ในรูป Active แล้วนะครับ แต่ถ้าไม่ได้ Active มันจะขึ้น non - active
และทำการดู version ด้วยว่าเป็นอะไร ในรูปเป็น Microsoft office Professional Plus 2010
2. ให้ไปที่ Control Panel จากนั้นเลือก Uninstall Program
3. จากนั้นเอาเมาส์ไปไฮไลท์ที่ Microsoft Office Professional และกด Change
4. ให้เลือก Enter a Product Key จากนั้นให้เราใส่ Key Microsoft office 2010 ลงไป และกด OK ครับ
แค่นี้เราก็ได้ทำการเปลี่ยน Product key ของชุด Microsoft office 2010 แล้ว
หมายเหตุ
การเอา Product key มาใส่ควรใส่ให้ตรงกับ Version ของ Micorosoft office 2010 ของท่านด้วยนะครับ
ส่วน Product key admin office ส่วนใหญ่ก็มีอยู่ในมือแล้วเนอะ